วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เอามอนิเตอร์คอม.มาต่อกล่องทีวีดิจิตอล

บทความนี้จะเป็นการเอามอนิเตอร์พีซีมาต่อกับกล่องทีวีดิจิตอลนะครับ

-------------------------------------

ถ้ามอนิเตอร์ไม่มีพอร์ทต่อ HDMI มันจะค่อนข้างวุ่นวายนิดนึงนะครับ ต้องหาตัวแปลงมาใช้ ถ้ามี DVI ก็จะถูกหน่อย HDMI -> DVI อันนี้ไม่กี่สิบบาท แต่ถ้าจาก HDMI -> AVI อันนี้จะแพงหลักร้อย แต่ตัวอย่างที่ผมเอามาให้ดูก็ใช้ TV BOX ตัวนี้พันกว่าบาท ของพี่ชายซื้อมาจะสิบปีแล้วแต่ไม่ได้ใช้เลย ผมก็เอามาลองเล่นดูครับ โดยต่อผ่านทางพอร์ท RCA 3 สี (หาซื้อมือสองก็ไม่กี่ร้อย)



ส่วนหน้าตาของอะแดปเตอร์ HDMI to VGA ก็ประมาณนี้ครับ (อันนี้สองร้อยกว่าบาท) ดูรายละเอียดได้จากเครดิต
เครดิต : https://www.advice.co.th/product/accessories-other/converter/converter-hdmi-to-vga-audio-cable
หน้าตาของอะแดปเตอร์ HDMI to DVI ก็ประมาณนี้ครับ (ราคาไม่ถึงร้อย) ดูรายละเอียดได้จากเครดิต
เครดิต : https://www.advice.co.th/product/accessories-other/converter/converter-hdmi-f-to-dvi-m-24-1

ก่อนซื้อดูดี ๆ คุยกับคนขายให้รู้เรื่อง เพราะหน้าตาบางตัวจะคล้าย ๆ กัน ซื้อผิดมาจะใช้ไม่ได้


----------------------------------

อุปกรณ์ที่ต้องใช้
  1. มอนิเตอร์ มอนิเตอร์ที่ผมใช้อยู่ มีช่องต่อ HDMI ด้วย ดังนั้นจึงไม่ยากที่จะเอามาต่อ ถ้าหากมอนิเตอร์คุณที่จะนำมาใช้ไม่มีช่องนี้ ต้องไปหาอะแดปเตอร์มาเพิ่ม 
  2. เสาอากาศ มีเสาก้างปลาหรือหนวดกุ้งเก่าอยู่ก็ใช้ได้ ไม่มีก็ต้องหาเพิ่ม ถ้าใช้เสาแบบภายในบ้าน แต่สัญญาณไม่ดี ดูแล้วจะไม่มีความสุขนะครับ
  3. กล่องจูนเนอร์ทีวีดิจิตอล ถ้ามีคูปองก็เอาไปแลก ไม่มีก็ต้องควักกระเป๋า
  4. ลำโพง เนื่องจากมอนิเตอร์ส่วนใหญ่ไม่มีลำโพง ต้องหามาเพิ่ม ต้องเลือกแบบพ่วงด้วยปลั๊กฝักบัวได้ ที่เป็นสีขาว-แดงนั่นแหละ (RCA) เดี๋ยวดูรูปด้านหลังกล่องจูนเนอร์ประกอบแล้วกัน หรือจะใช้ลำโพงปลั๊ก 3.5 ก็หาอะแดปเตอร์ RCA to 3.5 mm.มาใช้ครับ หน้าตาตามรูป


เท่านี้เองก็ได้ดูทีวีดิจิตอลแบบลงทุนน้อย ไม่ต้องง้อทีวีแล้ว


มาดูช่องต่อพ่วงกันก่อน ส่วนใหญ่ก็มีราว ๆ นี้แหละ จากซ้ายไปขวานะครับ

  1. ช่องเสาอากาศขาเข้า
  2. ช่องสัญญาณออกแบบ RF อันนี้ไม่ต้องใช้นอกจากจะใช้ดูทีวีแบบอนาลอกดั้งเดิม ฮ่า ๆ
  3. ช่องสัญญาณ Coaxial ใช้เพื่อต่อกับเครื่องเสียง ผมใช้ลำโพงกระจอก ๆ ไม่ต้องใช้ครับ (กล่องบางรุ่นไม่มีนะครับ ถ้าต้องใช้ควรเช็คก่อนว่ามีช่องนี้ไหมก่อนซื้อ)
  4. ช่อง HDMI ช่องสัญญาณภาพและเสียงแบบดิจิตอล ใช้กับมอนิเตอร์ต้องใช้ช่องนี้
  5. ช่อง RCA เหลือง ขาว แดง ช่องสัญญาณขาออกแบบอนาลอก ภาพ เสียงซ้าย ขวา ตามลำดับ ใช้ช่องขาว-แดง ส่งสัญญาณเสียงโดยต่อกับชุดเครื่องเสียง
  6. ช่องเสียบไฟขาเข้าจากอะแดปเตอร์
  7. ช่อง USB อันนี้ไม่เห็นเพราะอยู่ด้านหน้านะครับ และมันก็ควรอยู่ด้านหน้าเพื่อให้สะดวกต่อการใช้

การตั้งค่าระบบทีวี

ตัวอย่างเมนูของ AJ DVB 93 รุ่นอื่นอาจจะไม่มี 50/60 Hz นะครับ

ก็มีการสอบถามกันว่าควรใช้แบบไหน ที่แนะนำกันก็คือ 1080i (ถ้าจอไม่รองรับต้องปรับเป็น 720 นะครับ) เพราะทีวีเมืองไทยส่งมาแบบนั้น ไม่จำเป็นต้องปรับเป็น 1080p แต่ที่ผมลองกับมอนิเตอร์พบว่าปรับเป็น 1080p ให้ภาพคมชัดกว่า ลื่นไหลกว่า แต่การปรับเป็น 1080p มันต้องใช้สัญญาณทีวีที่แรงมาก ๆ ถ้าอยู่ในพื้นที่สัญญาณไม่ค่อยแรง สัญญาณจะตกวูบจนดูไม่ได้ครับ ถ้าเป็นแบบนั้นก็จำเป็นที่ต้องปรับไปที่ 1080i แทน

อุปกรณ์ที่ผมใช้
  1. มอนิเตอร์ 23" 1920 X 1080 มีช่อง HDMI 1 ช่อง (ถ้ามีสองช่องละแจ๋วเลย)
  2. เสาอากาศแบบ Indoor มีไฟเลี้ยงของ พี่ก้อง Nano DA-001 (359.-) บอกตรง ๆ ว่าเสาไม่ค่อยดี ใช้ภายในบ้านรับแทบไม่ได้ ต้องวางใกล้ ๆ หน้าต่าง จะให้รับดี ๆ ต้องแหย่ออกนอกบ้านครับ ที่ซื้อมาใช้เพราะติดตั้งและเคลื่อนย้ายสะดวก บ้านใครสัญญาณไม่แรงไม่แนะนำ (บ้านผมห่างใบหยก 2 ประมาณ 11 กม. เช็คจาก http://dtvservicearea.nbtc.go.th/webpeople/ )
  3. ลำโพงช้างน้อย (เนื่องจากมอนิเตอร์ผม มีช่องแจ็กหูฟัง 3.5 มม.ด้วย จึงใช้ลำโพงแบบกระจอก ๆ ได้ ทีแรกยังคิดว่ามันทำมาทำไม ตอนนี้รู้ประโยชน์มันแล้วครับ ฮ่า ๆ )


*** Dolby Digital สำคัญอย่างไร ไฟล์หนังระดับ HD (MKV) เดี๋ยวนี้มักใช้เสียง Dolby Digital และ DTS ส่วนมากเสียงไทยจะใช้แค่ระบบ Dolby Digital ถ้าอยากเล่นซาวน์แทร็กด้วย ต้องขยับระบบเสียงขึ้นไป DTS ครับ (แพง) *** 


ทดลองกล่อง AJ DVB 93 นิชคุณ (690.-) รุ่น 12 โวลท์

ทั้งตัวไม่มีปุ่มอะไรซักปุ่ม ต้องสั่งการโดยรีโมทเท่านั้น ไม่มีการแสดงหมายเลขช่องที่กล่องจูนเนอร์ ช่อง USB ด้านหน้า สะดวกต่อการใช้ดีครับ




ข้อดี รับสัญญาณได้ดี ตั้งค่าระบบทีวีได้ทั้ง 1080i , 1080p และที่ต่ำกว่านี้ได้ เลือกความถี่ 50/60 Hz ได้ ช่วยแก้เรื่องภาพสั่นได้ เปลี่ยนช่องได้เร็ว ต่อพ่วงฮาร์ดิสก์พกพาไม่มีปัญหาในการเล่นไฟล์ ลองดูหนังไปเรื่องนึง ต่อด้วยดูทีวีอีกสามชม.ไม่มีปัญหากล่องร้อน หรือจะเป็นเพราะอากาศช่วงนี้มันเย็นหว่า

ข้อเสีย ไม่รองรับเสียงระบบ Dolby Digital ถ้าเอาหนังมาใช้ดูด้วยเครื่องนี้บางเรื่องจะใบ้ (ไฟล์ MKV เล่นได้ แต่ถ้าเรื่องไหนใส่แต่เสียง Dolby Digital มา จะไม่มีเสียง) การใช้งานในหมวด USB ในเมนูต่าง ๆ ผมว่ามันแปลก ๆ ต้องลองหัดใช้ซักพัก

สรุป ถ้าคิดจะเอามาดูทีวีอย่างเดียว ในราคา 690.- ดีมากครับ แต่ถ้าต้องการนำมาใช้เป็นมีเดียเพลเยอร์ด้วย แนะนำหาตัวที่รองรับเสียงระบบ Dolby Digital จะดีกว่า

ปล. ในความคิดเห็นส่วนตัว สำหรับเราชาว พีซี.ตัวนี้เจ๋งมาก ราคาต่ำสุด แต่ดูทีวีได้ดีมาก ส่วนเรื่องดูหนัง เอาไปดูบน พีซี.สะดวกสบายกว่าดูด้วยกล่องพวกนี้ครับ ถ้าจะดูให้ได้จริง ๆ ก็หาโปรแกรมแปลงไฟล์หนังมาแปลงเสียงก่อนครับ ตัวที่ผมซื้อมาเป็นชิป SONY ล็อตหลังไม่แน่ใจ




ทดลองกล่อง Createch CT-1 Dolby Digital Plus (790.-)

มีปุ่มมาให้ใช้สามปุ่ม ปิด-เปิดเครื่อง เปลี่ยนช่องขึ้น-ลง ไม่มีการแสดงหมายเลขช่องที่กล่องจูนเนอร์ ช่อง USB ด้านหน้า ตัวนี้แพงกว่าตัวถูกอยู่หนึ่งร้อยบาท แต่จะมี Dolby Digital ช่วยให้ดูหนังวีดีโอได้ดีขึ้น (ไม่ใบ้) แต่ไม่รองรับระบบเสียง DTS นะครับ ตัวเครื่องไม่มีพอร์ท Coaxial



ข้อดี รับสัญญาณได้ดี (แต่ผมว่าอ่อนกว่า AJ นิดนึงนะ) รองรับระบบเสียง Dolby Digital ทำให้ดูหนังใหม่ ๆ ผ่านทาง USB ได้ดีกว่า ตั้งค่าระบบทีวีได้ทั้ง 1080i , 1080p และที่ต่ำกว่านี้ได้

ข้อเสีย ไม่มีพอร์ท Coaxial ระบบทีวีเลือกความถี่ 50/60 Hz ไม่ได้ คิดว่าตั้งไว้ที่ 50 Hz นะ ดูผ่านมอนิเตอร์ผมว่าภาพมันสั่น (1080i ลองกับทีวี LCD ไม่เป็น) ถ้าปรับไป 1080p จะดีขึ้น แต่การรับสัญญาณจะดรอปลง ถ้าสัญญาณไม่ดีดูไม่ได้ทันที ลองต่อกับฮาร์ดดิสก์พกพา 1 TB เวลาดูหนังบางทีมันหยุด รอสักพักก็เดิน เวลาที่เป็นไม่แน่นอน บางทีดูเกือบ ชม.ถึงจะเป็น แต่บางทีเป็นตลอด แต่ดูผ่านธัมบ์ไดร์ฟลื่นครับ (ไม่รู้เป็นที่เครื่องผมเครื่องเดียวหรือเปล่านะครับ)

สรุป เอามาดูกับมอนิเตอร์ ผมว่าไม่ดีครับ เอามาใช้กับทีวีเป็นมีเดียเพลเยอร์ผ่านธัมบ์ไดร์ฟดี แต่ถ้าเป็นนักสะสมหนังในฮาร์ดดิสก์พกพาจะซื้อมาใช้ แนะนำว่าเลือกตัวอื่นดีกว่า

ปล. ไม่ว่าเครื่องไหนที่รองรับระบบเสียง Dolby Digital แต่ถ้าไปเจอระบบเสียง DTS ก็อาจจะไม่มีเสียงเหมือนกัน นอกจากกล่องจะรองรับระบบ DTS ด้วย



ทดลองกล่อง Samart Strong POP 1 (690.-)



ทั้งตัวไม่มีปุ่มอะไรซักปุ่ม ต้องสั่งการโดยรีโมทเท่านั้น ไม่มีการแสดงหมายเลขช่องที่กล่องจูนเนอร์ ช่อง USB ด้านหน้า สะดวกต่อการใช้ แต่ช่อง RCA ที่กล่องเป็นแบบ 3.5 มม. 4 ตอน ตัวนี้ต่อลำโพงน่าจะใช้ได้เลยไม่ต้องหาอะแดปเตอร์มาแปลง *** ลองใช้แล้วเสียงออกลำโพงข้างเดียว คิดว่าการเรียงไม่ตรงกับช่องหูฟัง 3.5 ที่ใช้ ๆ กัน ***

ลองใช้จริง สัญญาณไม่ดีอย่างที่เขาว่ากันจริง ๆ จากตำแหน่งเสาอากาศที่ใช้กับตัวอื่น ๆ ได้ ตัวนี้ไม่ได้ครับ เอาไปไว้นอกบ้านยังเปิดได้แค่ 1080i ถ้าเลือก 1080p รับไม่ค่อยได้ ระบบภาพไม่ค่อยดี (1080i 50Hz) รู้สึกว่าภาพสั่น การเปลี่ยนช่อง ค่อนข้างช้ากว่าตัวอื่นนิดหน่อย ลองเล่นกับฮาร์ดดิสก์ 500 GB เล่นได้ดีครับ ไฟล์ MKV AC-3 เสียงออก ไม่มีปัญหาอะไร แต่ไม่ค่อยรองรับซับไตเติล (ลองหลายอัน ไม่ขึ้นสักอัน)

การต่อลำโพง ใช้สายลำโพงแบบ 3.5 มม.เสียงดันออกข้างเดียว ช่วงคอนแทร็กท์ไม่ตรงกับหัวสายลำโพง 3.5 มม.ทั่ว ๆ ไป ต้องใช้สายของเครื่องไปต่อกับ RCA ของลำโพง

ข้อดี รองรับ Dolby Digital ดูหนังระบบ Dolby Digital จาก USB ไม่มีปัญหา

ข้อเสีย ไม่มีพอร์ท Coaxial รับสัญญาณได้ไม่ดี ช่องต่อลำโพงแก้ไขลำบาก ต้องหาอะแดปเตอร์แบบอื่นมาใช้แทน

สรุป ถ้าสัญญาณไม่ดี เสารับได้ไม่เต็มที่ ไม่แนะนำตัวนี้ครับ แต่ข้อดีก็คือรองรับ Dolby Digital ในราคา 690.- ถ้าที่บ้านมีลำโพงใช้ช่อง RCA ได้ และสัญญาณรับได้ดีมาก ตัวนี้ก็คุ้มดี



ทดลองกล่อง SOKEN DB-233 Dolby Digital (890.-)

ทั้งตัวไม่มีปุ่มอะไรซักปุ่ม ต้องสั่งการโดยรีโมทเท่านั้น ไม่มีการแสดงหมายเลขช่องที่กล่องจูนเนอร์ ช่อง USB ด้านหน้า สะดวกต่อการใช้ มีหลอดไฟ LED 2 ดวง แจ้งสถานะของกล่องและ USB โดดเด่นมากจนอยากจะหาฟิล์มกรองแสงไปปิด






ข้อดี มีระบบเสียง Dolby Digital แต่เวลาซื้อต้องดูที่กล่องนะครับ เพราะล็อตแรกจะมี แต่ล็อตหลังจะถูกตัดทิ้ง เพราะลดราคาลงมาจึงต้องลดต้นทุน การดูหนังผ่าน USB ดีครับ ต่อฮาร์ดดิสก์พกพาเล่นได้ไม่สะดุด อาจจะเพราะอะแดปเตอร์จ่ายไฟสูงกว่า Createch CT-1 มั้ง ( 5 โวลท์ / 1.5 แอมป์ ) แต่เจอเสียงระบบ DTS ก็ใบ้กินอยู่ดี การรับสัญญาณทีวี ดีครับ เปลี่ยนช่องได้เร็ว ระบบการเล่นวีดีโอผ่าน USB พี่ชายผมบอกดีพอ ๆ กับพวกกล่องมีเดียเพลเยอร์เลย (เขาเป็นสายนั้น ส่วนผมไม่รู้เรื่องหรอก แหะ ๆ ) สามารถปรับค่าความสว่าง ความคมชัด คอนทราสท์ ฯลฯ

ข้อเสีย การตั้งค่าระบบทีวีใช้ 60 Hz ไม่ได้ แต่ดูผ่านมอนิเตอร์ภาพไม่กระพริบ อาจจะเพราะชิปดีมั้ง ตัวนี้ไม่มีพอร์ท Coaxial เสียงค่อนข้างแข็งไปหน่อย ฟังนาน ๆ เมื่อยหู (เป็นที่ผมคนเดียวหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ ผมชอบเสียงนุ่ม ๆ )

เมนูการตั้งค่าระบบของ SOKEN DB-233

สรุป ถ้าเอามาใช้เป็นมีเดียเพลเยอร์ด้วย คุ้มครับ ย้ำอีกทีว่าต้องเป็นล็อตแรก ที่มี Dolby Digital ตอนซื้อต้องดูดี ๆ นะครับ ถ้าไม่มี AJ ดีกว่าเพราะถูกกว่าตั้ง 200.- ตัวนี้ไม่มีพอร์ท Coaxial ถ้าต้องใช้ หาตัวอื่นครับ (SOKEN ตัวที่ผมใช้ลองแกะดูแล้วใช้ชิป SONY ด้วยนะ)


-----------------------------------

คิดว่าคงพอแล้วครับ ทีวีมีครบทุกตัวแล้ว

----------------------------------- 

*** เท่าที่ลอง ๆ มา แต่ละตัวมีข้อดี-เสียต่างกันออกไป ตอนนี้ก็อยู่ที่คุณแล้วว่าจะเอามาใช้อะไร เลือกที่เหมาะกับความต้องการใช้งานครับ แล้วก็อย่าเชื่อทุกอย่างที่ผมบอก ควรลองไปหาข้อมูลที่อื่น ๆ ประกอบด้วย ***

------------------------------------


ของแถมครับ ผมลองเสา Indoor ระหว่าง NANO DA-001 กับ CREATECH AT-1 แล้ว ในพืันที่ที่สัญญาณไม่แรงนัก CREATECH AT-1 ดีกว่านิดหน่อยนะครับ แต่ถ้าสัญญาณแรง ๆ ไม่มีความแตกต่าง ทั้งคู่ราคา 359.- เท่ากัน แต่นาโนเห็นมีขายออนไลน์ราคาถูกกว่านี้ครับ

 


เสาพวกนี้ต้องใช้ไฟเลี้ยงถึงจะดีนะครับ กล่องที่มีโลโก้น้องดูดีทุกกล่องจะมีไฟเลี้ยง ตามข้อบังคับ กสทช. สั่งเปิด - ปิด ได้จากเมนูการตั้งค่า ให้ลองหาดู อีกอย่างถ้าวางแนวตั้งสัญญาณไม่ค่อยดีลองติดตั้งเป็นแนวนอนใกล้ ๆ หน้าต่างครับ

4 ความคิดเห็น:

  1. dolby นี้ถ้าเราเล่นไฟล mkv แล้วจะให้เสียงออกสาย rcaได้ไหมครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้ากล่องถอดรหัสดอลบี้ได้ เสียงจะมาทางสาย RCA ได้ครับ ถ้าถอดไม่ได้ต้องต่อผ่านพอร์ท Coaxial ไปยังโฮมเธียเตอร์แทน

      ลบ
  2. รีโมทไช้งานได้แต่ที่ตัวกล่องไม่รับเกิดจากอะไร

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้ารีโมทไม่เสีย อาจจะเสียที่กล่อง ถ้าหมดประกันแล้วซ่อมอาจจะไม่คุ้มนะครับ (ถ้าเป็นกล่องพวก 690.-)

      ลองเปลี่ยนถ่านรีโมทหรือลองเอาของตัวอื่นมาลองดู ลองเอารีโมทตัวเก่าไปลองกับตัวอื่น ๆ ด้วย พวกจีนแดงบางตัวมันใช้กันได้แต่ปุ่มอาจจะไม่ตรง

      ถ้าจะซื้อใหม่ ลองถาม ๆ คนรู้จักว่ามีใครเหลือใช้ไหม เพราะบางทีเปลี่ยนทีวีใหม่แล้วก็ไม่ได้ใช้กล่องต่อแล้ว เผื่อได้ฟรี ฮ่า ๆ

      ลบ