เราจะผ่านร้อนนี้ไปด้วยกัน ด้วยการประหยัดเงินไปด้วย
ผมขอแนะนำวิธีคลายร้อนด้วยวิธีของผมเอง เป็นแค่แนวทางสำหรับเอาไปใช้และหาข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม ห้ามนำไปใช้อ้างอิง เพราะผมมั่วเองเยอะ
สุดยอดอุปกรณ์คลายร้อนแบบประหยัด
ติดแอร์ เป็นคำตอบที่ตรงที่สุดสำหรับการคลายร้อน การติดตั้งแอร์ แน่นอนว่านอกจากค่าเครื่องแล้วยังต้องเตรียมเงินสำหรับค่าไฟด้วย การเลือกซื้อก็ต้องดูขนาดห้องและสภาพของห้อง อันนี้ควรถามผู้ขายว่าต้องใช้ขนาดเท่าไหร่ ถ้าจะเอาประหยัดไฟก็เลือกพวกเบอร์ 5 ดูได้จากที่นี่
แอร์เบอร์ 5 เอาประหยัดไฟมากก็เอา Inverter (แต่ราคาไม่ประหยัดนะครับ ฮ่า ๆ เลือกซื้อตามงบแล้วกัน)
แอร์เคลื่อนที่ ถ้าจำเป็นก็พอใช้ได้ครับ อย่าคาดหวังว่ามันจะเย็นเหมือนแอร์แบบติดตั้ง เพราะคอยล์ร้อนมันอยู่ในห้อง ต้องใช้กับห้องเล็ก ๆ วางใกล้ ๆ หน้าต่าง หาทางเอาลมร้อนออกไปโดยไม่เสียอากาศเย็นที่ทำได้ ทำแผ่นกั้นที่หน้าต่างแล้วเจาะรูให้ท่อลมร้อนออกก็จะดีขึ้นนิดหน่อย ต้องระวังเรื่องน้ำทิ้งด้วย
ต่อไปก็เป็นการลดค่าไฟจากการใช้แอร์ครับ เปิดแอร์อุณหภูมิที่ไม่ต่ำเกินไป ก็จะกินไฟน้อยกว่าเปิดต่ำ ๆ อย่างตอนนี้รณรงค์ให้เปิดที่ 25 - 26 องศา ทุก ๆ องศาที่เพิ่มขึ้น จะประหยัดไฟไปประมาณ 10% ถ้าเปิดสัก 27 - 28 แล้วเอาพัดลมมาช่วยก็จะช่วยลดค่าไฟได้อีก พัดลมจะช่วยดึงอากาศด้านหลังส่งออกมาทางด้านหน้าตรง ๆ ส่วนแอร์ยิ่งใช้น้อยก็ยิ่งประหยัด ไม่ร้อนก็ไม่ต้องเปิด ตั้งเวลาปิดก่อนตื่นสักครึ่งชม.หรือ 1 ชม.แค่นี้ก็ลดค่าไฟได้อีก ถ้าห้องอากาศร้อนกว่าอากาศภายนอก แนะนำให้ไล่ความร้อนออกไปก่อนเปิดแอร์ด้วยครับ (เดี๋ยวแนะนำต่อไป)
หมั่นล้างฟิลเตอร์กรองอากาศ กรองแอร์บางรุ่นล้างด้วยน้ำได้ บางรุ่นล้างไม่ได้ก็เป่าฝุ่นเอาครับ ดูได้จากคู่มือแอร์ ส่วนที่คอยล์ร้อนหมั่นปัดฝุ่นครีบระบายความร้อนด้วยแปรงทาสีแบบขนอ่อน จะให้ดีควรล้าง ล้างเองไม่เป็นก็เรียกช่างมาล้าง อย่างน้อยปีละครั้งก็ยังดี
พัดลม เป็นอุปกรณ์ดับร้อนราคาไม่แพง กินไฟไม่เยอะ ถ้ามีอยู่แล้วแนะนำให้ล้างตะแกรงหน้า หลัง และใบพัดลม แล้วก็อย่าลืมหยอดน้ำมันด้วย รับรองว่าพัดลมคุณจะแรงขึ้นจนคุณแปลกใจทีเดียว
การหยอดน้ำมันพัดลม
ส่วนการซื้อพัดลมใหม่ พวกพัดลมแปลก ๆ ไม่ค่อยได้เรื่องครับ พวกไร้ใบหรือทาวเวอร์ พวกนี้ซื้อมาใช้เท่ ๆ ใช้หน้าร้อนเมืองไทยเอาไม่อยู่แน่ ผมแนะนำว่าให้ซื้อแบบพัดลมธรรมดาทั่ว ๆ ไป ซื้อเบอร์ 5 ในระยะยาวคุ้มกว่า (จริงหรือ?) สำหรับขนาดผมแนะนำ 16 นิ้ว เพราะ 14 นิ้วสู้หน้าร้อนไม่ค่อยไหว ขนาด 16 นิ้วจะกินไฟเยอะกว่านิดหน่อย (~10%) ไม่ต้องกลัวค่าไฟเยอะหรอก 16 นิ้ว วันนึงเปิด 8 ชม.ค่าไฟไม่ถึงสองบาท
พัดลมเบอร์ 5 แต่แรงลมที่ได้เยอะกว่ากันเยอะ การลดขั้นความแรงพัดลมก็ลดการใช้ไฟได้อีกด้วย คุ้มแน่นอน (ถ้าแต่ละขั้นลดได้ราว 10% เปิดเบอร์ 2 กินไฟเท่า 14 นิ้ว แต่ลมแรงกว่าครับ) ยี่ห้อที่ผมลองเสิร์ชดู เห็นแนะนำพวกยี่ห้อใหญ่ ๆ มิตซูบิชิ เนชันแนล โตชิบา (โตชิบาที่บ้าน 3 ตัวพังหมด ต้องเอาไปซ่อม แต่ใช้ก็หลายปีอยู่ก่อนพัง) ส่วน ฮาตาริ คนแนะนำก็หลายคน แต่ก็มีเยอะที่ว่ามันเปราะ พังง่าย ไม่ส่าย เสียงดัง ของที่บ้านก็พังหมดเหมือนกัน เหลืออยู่ตัวนึงไม่ส่ายซ่อมเอง ฮ่า ๆ มิตซูที่บ้านไม่มีสักตัว ตัวต่อไปคงต้องซื้อมาลองซะหน่อย
หลักการทำงานก็คือ ช่วยพัดอากาศพาความร้อนจากผิวเรา ถ้ามีเหงื่อก็จะช่วยให้เหงื่อระเหยออกไป ทำให้ผิวเราเย็นลง
(ตอนหน้าร้อนปี 2559 บอกเลยว่าตัวเดียวเอาไม่อยู่ ต้องใช้อีกตัววางที่ปลายเท้าเป่ามาที่ตัวช่วย)
[แนวความคิด]แอร์คนจน ใช้พัดลมกับกาละมังใส่น้ำช่วยลดความร้อน
พัดลมไอน้ำ / พัดลมถ่ายเทความร้อนด้วยน้ำ สำหรับพัดลมไอน้ำผมไม่แนะนำให้ใช้ในห้องนอน ส่วนพัดลมถ่ายเทความร้อนด้วยน้ำหรือพัดลมไอเย็น ใช้ได้ถ้าห้องคุณจะสามารถถ่ายเทอากาศได้ดีมาก ๆ เท่านั้น ความชื้นที่ได้จะทำให้ปอดชื้น เป็นหวัด หนัก ๆ ก็ถึงปอดบวมเอาได้ ถ้าเปิดพร้อมแอร์ แอร์จะทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม ค่าไฟจะตามมา
การทำงานมันก็คือใช้ความชื้นจากน้ำ น้ำจะระเหยกลายเป็นไอน้ำ ตอนระเหยจะดึงความร้อนในอากาศมาใช้ ทำให้รู้สึกเย็น แต่พอความชื้นในห้องเริ่มเยอะ มันก็จะไม่ระเหยต่อ มันก็เลิกเย็นกลายเป็นร้อนแทน เพราะความชื้นที่ผิวเราก็จะไม่ระเหยไปด้วย
ห้อง มุ้งลวดประตู หน้าต่าง ถอดมาล้างให้หมด ข้าวของในห้องจัดให้ไม่ขวางทางลม จะช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดี ๆ
ถ้าอากาศภายในห้องร้อนกว่าอากาศภายนอก แนะนำให้เอาความร้อนออกไปก่อน วิธีที่ทำได้เร็ว ๆ ก็คือ ใช้พัดลมดูดอากาศในห้องไปทิ้งนอกห้องครับ เปิดหน้าต่างให้มาก ๆ บาน ดูว่าลมเข้าทางไหน ออกทางไหน ที่หน้าต่างลมออก เอาพัดลมไปวางตรงหน้าต่างในตำแหน่งที่สูงที่สุดเท่าที่ทำได้ เป่าอากาศออกแค่ 10 นาทีจะรู้สึกได้ ถ้ามีพัดลมอีกตัวใช้ช่วยดูดอากาศจากหน้าต่างที่ลมเข้าในตำแหน่งต่ำ ๆ แบบนี้ไม่ถึง 5 นาทีห้องก็เริ่มเย็นแล้ว พอห้องเย็นแล้วเปิดแค่ตัวที่ดึงลมเข้าห้องเป่ามาที่เราเลย ถ้ามีตัวเดียวก็ย้ายพัดลมเอา (ถ้ามีพัดลมสองตัว ร้อนอีกก็เปิดตัวดูดอากาศออกได้เลย สะดวกกว่า)
ดูว่าสาเหตุที่ห้องร้อนเกิดจากอะไร ถ้าแก้ไขได้ ก็ควรทำซะ เช่น แดดส่อง ก็หาอะไรไปบังแดด ปลูกต้นไม้ ติดม่าน ติดสแลนบังแสง (ถ้าบังแสงนอกห้องได้จะดีกว่า) การแผ่ความร้อนจากเพดาน ก็ตีฝ้า ทำหลังคาให้ดาดฟ้า (ประหยัดตรงไหนเนี่ย ประหยัดเงินในระยะยาวครับ)
ลดการเพิ่มอุณหภูมิให้ห้อง เช่น ไม่ทำการอาหารในห้อง ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น นีออนเปิดนาน ๆ มันก็ร้อนนะครับ เปลี่ยนหลอดไฟไปใช้แบบความร้อนน้อย ๆ อย่างหลอด LED คอมพิวเตอร์นี่ก็ตัวดี ถ้าเล่นเกมกราฟฟิกสูง ๆ ตู้เย็นก็ไม่ควรวางในห้องนอน ทีวีไม่ดูก็ปิดซะ งดการออกกำลังกายในห้อง ฯลฯ
ร่างกาย ลดความร้อนในร่างกายเรา เอาเวิร์คสุด ๆ อาบน้ำประแป้งครับ หากะละมังใส่น้ำเอาผ้ามาเช็ดตัวบ่อย ๆ หาเครื่องดื่มเย็น ๆ ดื่มน้ำเยอะ ๆ เสื้อผ้าก็เลือกแบบอากาศผ่านได้ดี ถ้านอนที่นอนแล้วร้อนมาก ลองหาเสื่อกกมาปูนอนครับ
จิตใจ ถ้าทำทั้งหมดมายังรู้สึกร้อนก็ต้องทำใจแล้วครับ คิดซะว่าปีก่อนมันก็ร้อนอย่างนี้ เรายังรอดมาได้ ข้างบ้านเรามันก็ร้อนเหมือนเรา มันก็ยังทนได้ ย้ายบ้านไปขั้วโลกมันก็จะไม่ร้อน แต่หนาวมันจะทรมานกว่าไหม ฮ่า ๆ
ทำใจให้เย็น มองโลกในแง่ดี งดอ่านข่าวการเมือง น่าจะช่วยได้เยอะ
ส่วนหน้าร้อนปีหน้าเราจะร้อนไปด้วยกันเหมือนเดิม