เวลาที่ต้องจุดไฟแช็กนาน ๆ อย่างจุดธูป เทียน มักจะร้อนมือ พอดีไปเจอมาจากร้านทุกอย่าง 20 อีกแล้วครับ เป็นไฟแช็กจุดเตาแก๊สแบบยืดหดได้ พกพาได้สะดวกดี เติมแก๊สได้ ใช้แม็กนิโตในการจุด
วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2560
วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ลดความร้อน CPU ด้วยการปิดเทอร์โบโหมด โดยการใช้ Power Options ของวินโดว์
จากครั้งก่อนเคยแนะนำการลดความร้อน CPU ด้วยการใช้โหมดต่าง ๆ ในพาวเวอร์ออปชันไป วันนี้จะมาแนะนำการลดความร้อน CPU ด้วยการปิดเทอร์โบโหมด โดยการใช้ Power Options ของวินโดว์นะครับ
CPU รุ่นใหม่ ๆ จะมีการใช้เทอร์โบเร่งรอบซีพียูให้เร็วขึ้น แน่นอนว่าความร้อนย่อมเพิ่มตามมาด้วย ซึ่งการใช้งานทั่วไปมันไม่ต้องใช้เท่าไหร่ แม้แต่การเล่นเกมเล็ก ๆ แต่บ่อยครั้งเลยที่เทอร์โบทำงานให้เองโดยอัตโนมัติ ถ้าต้องการปิดการทำงานตรงนี้ ทำได้ง่าย ๆ ตามนี้ครับ
เปิดหน้าต่าง Power Options ขึ้นมา (ถ้าเปิดไม่เป็นเรียกจาก Control Panel ก็ได้)
เลือกโหมดที่ต้องการจะปิดโหมดเทอร์โบ คลิกที่ Change plan settings
คลิกที่ Change advanced power settings
ที่ดรอปบ็อกซ์ ให้เลือกโหมดที่เราต้องการ ถ้าจะทำให้โหมดอื่นเลือกได้ที่ตรงนี้
ไปที่ Processor power management > Maximum processor state > ตรง Setting (%); เลือกให้ต่ำกว่า 100% (แค่ 99 ก็ได้ หรือเอาต่ำกว่านี้ถ้าต้องการลดแรงซีพียูด้วย) เสร็จแล้วกด OK เรียบร้อยแล้วครับ
หลังจากนี้เมื่อเลือกโหมดการทำงานอันที่เราปรับค่าแล้ว เทอร์โบจะไม่เดิน ถ้าถามว่าคอม.เราช้าลงไหม ถ้างานไม่หนักมาก ๆ แทบไม่แตกต่างเลย ยกเว้นงานที่โหดจริง ๆ ถึงจะมีผล
(ถ้าว่างจะลองเล่นเกมแล้วเอาผลมาให้ดูครับ เคยลองแล้วลดได้ 20 องศาเซลเซียส)
--------------------------------------
ผลการทดลองใช้
ลองเล่นเกม The Last Remnant ให้ดูนะครับ เป็นเกมเก่า กินเครื่องปานกลางถึงค่อนข้างสูง
Balanced mode 100%
โหมดนี้ CPU ผมจะวิ่งแถว ๆ 4.2 GHz โหมดนี้คอม.ผมจะเดินเต็มที่ ไม่ค่อยได้ใช้เพราะรู้สึกมันร้อนเกินไป
*******************
High performance 100%
โหมดนี้ CPU ผมจะวิ่งแถว ๆ 3.8 GHz โหมดนี้เมื่อก่อนผมมักจะใช้เล่นเกม ร้อนแต่ไม่ทะลุ 80 องศา
**********************
Balanced mode 99%
โหมดนี้ CPU ผมจะวิ่งแถว ๆ 3.0 GHz คอม.ไม่ร้อน การใช้งานทั่วไปแทบแยกไม่ออก แม้เล่นเกมที่ระดับกลาง ๆ อุณหภูมิ ลดลงเยอะเลย
*************************
ส่วนตัวผมเองโหมดที่ใช้ประจำก็คือ Power saver ครับ เย็นดี ไว้ใช้งานทั่วไป ถ้างานหนัก ๆ แบบไม่ให้ร้อน ผมใช้โหมด Balanced 100% แต่ใช้ Overdrive ปิดเทอร์โบ CPU วิ่งแถว ๆ 3.5 GHz ความร้อนก็กลาง ๆ ครับ แต่ถ้าอยากให้แรงกว่านี้ก็โอเวอร์คล็อกไป 3.6 หรือ 3.7 GHz โดยที่ปิดเทอร์โบ ความร้อนจะขึ้นไปอีกประมาณ 10 องศาครับ
CPU รุ่นใหม่ ๆ จะมีการใช้เทอร์โบเร่งรอบซีพียูให้เร็วขึ้น แน่นอนว่าความร้อนย่อมเพิ่มตามมาด้วย ซึ่งการใช้งานทั่วไปมันไม่ต้องใช้เท่าไหร่ แม้แต่การเล่นเกมเล็ก ๆ แต่บ่อยครั้งเลยที่เทอร์โบทำงานให้เองโดยอัตโนมัติ ถ้าต้องการปิดการทำงานตรงนี้ ทำได้ง่าย ๆ ตามนี้ครับ
เปิดหน้าต่าง Power Options ขึ้นมา (ถ้าเปิดไม่เป็นเรียกจาก Control Panel ก็ได้)
เลือกโหมดที่ต้องการจะปิดโหมดเทอร์โบ คลิกที่ Change plan settings
คลิกที่ Change advanced power settings
ที่ดรอปบ็อกซ์ ให้เลือกโหมดที่เราต้องการ ถ้าจะทำให้โหมดอื่นเลือกได้ที่ตรงนี้
ไปที่ Processor power management > Maximum processor state > ตรง Setting (%); เลือกให้ต่ำกว่า 100% (แค่ 99 ก็ได้ หรือเอาต่ำกว่านี้ถ้าต้องการลดแรงซีพียูด้วย) เสร็จแล้วกด OK เรียบร้อยแล้วครับ
หลังจากนี้เมื่อเลือกโหมดการทำงานอันที่เราปรับค่าแล้ว เทอร์โบจะไม่เดิน ถ้าถามว่าคอม.เราช้าลงไหม ถ้างานไม่หนักมาก ๆ แทบไม่แตกต่างเลย ยกเว้นงานที่โหดจริง ๆ ถึงจะมีผล
(ถ้าว่างจะลองเล่นเกมแล้วเอาผลมาให้ดูครับ เคยลองแล้วลดได้ 20 องศาเซลเซียส)
--------------------------------------
ผลการทดลองใช้
ลองเล่นเกม The Last Remnant ให้ดูนะครับ เป็นเกมเก่า กินเครื่องปานกลางถึงค่อนข้างสูง
Balanced mode 100%
โหมดนี้ CPU ผมจะวิ่งแถว ๆ 4.2 GHz โหมดนี้คอม.ผมจะเดินเต็มที่ ไม่ค่อยได้ใช้เพราะรู้สึกมันร้อนเกินไป
*******************
High performance 100%
โหมดนี้ CPU ผมจะวิ่งแถว ๆ 3.8 GHz โหมดนี้เมื่อก่อนผมมักจะใช้เล่นเกม ร้อนแต่ไม่ทะลุ 80 องศา
**********************
Balanced mode 99%
โหมดนี้ CPU ผมจะวิ่งแถว ๆ 3.0 GHz คอม.ไม่ร้อน การใช้งานทั่วไปแทบแยกไม่ออก แม้เล่นเกมที่ระดับกลาง ๆ อุณหภูมิ ลดลงเยอะเลย
*************************
ส่วนตัวผมเองโหมดที่ใช้ประจำก็คือ Power saver ครับ เย็นดี ไว้ใช้งานทั่วไป ถ้างานหนัก ๆ แบบไม่ให้ร้อน ผมใช้โหมด Balanced 100% แต่ใช้ Overdrive ปิดเทอร์โบ CPU วิ่งแถว ๆ 3.5 GHz ความร้อนก็กลาง ๆ ครับ แต่ถ้าอยากให้แรงกว่านี้ก็โอเวอร์คล็อกไป 3.6 หรือ 3.7 GHz โดยที่ปิดเทอร์โบ ความร้อนจะขึ้นไปอีกประมาณ 10 องศาครับ
วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ลำโพง harman/kardon ONYX STUDIO 3 จาก Lazada
* หลังจากลองไปราว ๆ 200 ชม. ผมว่าลำโพงออกมาเสียงแนวแน่น นุ่มนวล เบสลึก เยอะ เสียงอืดหน่อย ๆ เหมือนกับเพิ่มเบสบูทส์มา เสียงกลางและแหลมชัดเจนดี ถ้าชอบแนวเสียงสด ๆ ใส ๆ ผมว่าไม่เหมาะครับ สำหรับไฟล์เสียงที่เร่งเบสมาแล้วจะฟังแล้วค่อนข้างอึดอัดครับ
ถ้าสนใจอยากซื้อบ้าง ราคามันจะขึ้น ๆ ลง ๆ ลองรอดูก่อนก็ดี บางทีห้าพันกว่า บางทีเหลือสี่พันกว่าครับ *
เห็นลาซาด้าโฆษณาลดราคาอยู่ ลองเข้าไปดูได้เรื่องเลย ไปเจอลำโพง harman/kardon ONYX STUDIO 3 ลดราคาเหลือ 3,990 บาท ด้วยความคันเลยสอยมาเล่นชุดนึงครับ (ใช้โปรบัตรเครดิต ลดอีกสามร้อยกว่าบาท) สั่งเมื่อวานบ่าย ๆ ตอนเที่ยงวันนี้ก็เอามาส่งแล้ว
ตัวผมเองชอบฟังเพลงที่เสียงกลางชัดเจน หวาน ๆ เบสไม่ต้องมากมายนัก แหลมไม่ต้องใสมากเกินไป ลำโพงตัวนี้เมื่อลองฟังครั้งแรก เบสมาเยอะมาก จนรู้สึกท่วม บวม เสียงกลางแม้จะชัดเจนแต่ก็ยังรู้สึกว่าอั้น ๆ เสียงแหลมให้รายละเอียดดี แต่ไม่ได้ใสมากมาย โดยรวมฟังแล้วอึดอัดพอสมควร แนวเพลงที่เหมาะคือ คลาสิค อะคูสติค กับดูหนัง (แต่เกะกะ ตัวขนาดประมาณลูกบาสเกตบอล ที่วางที่เหมาะคือวางกับพื้นหน้าทีวี)
การใช้งานที่แนะนำคือ ถ้าจะเปิดดัง ๆ ควรวางให้ไกลตัวครับ ถ้าฟังในห้องเล็ก ๆ อย่าเปิดดังมาก
ถ้าถามคุ้มไหม ผมว่าเสียงโดยรวม หน้าตา ถ้ารวมยี่ห้อที่ดูดีด้วย เทียบกับราคาก็คุ้มครับ
(หลังจากซื้อได้ 1 วัน ราคาลดไปอีก 100 บาท เหลือ 3,890 แต่พอผ่านไปอีกวันราคาไปอยู่ที่ 5799 แล้วครับ ราคามีขึ้นลงยังกับหุ้นเลย)
----------------------------------------
หลังจากใช้งานไป ~10 ชม.
เบสกระชับขึ้น หายบวมไปนิดหน่อย กลางชัดเจนขึ้นจิ๊ดนึง แหลมชัดเจนขึ้นหน่อยนึง ท่าทางลำโพงชุดนี้จะเบิร์นสนุก มีแววว่าเสียงจะดีครับ
-----------------------------------------
หลังจากใช้งานไป ~20 ชม.
กลางชัดเจนขึ้น เบสเริ่มหายบวม โดยรวมเบสยังเยอะอยู่แต่ฟังแล้วอึดอัดน้อยลง
-----------------------------------------
หลังจากใช้งานไป ~50 ชม.
กลางชัดเจนขึ้น แต่ยังออกไม่เต็มที่ เบสกระชับขึ้น แต่ยังอืด ๆ เสียงแหลมออกชัดเจนดี หลังจากลองเพลงหลาย ๆ แนว เจอว่าถ้าต้นฉบับเบสน้อย ๆ ฟังเพราะดี ถ้าเบสเยอะ ๆ มันจะออกมาเยอะไป
----------------------------------------
หลังจากใช้งานไป ~100 ชม.
เบสดีขึ้นครับ แต่เสียงจะอืด ๆ เหมือนติดบวมนิด ๆ กลางแหลมชัดเจน แต่ไม่ใสมาก
-----------------------------------------
ราคามีขึ้น ๆ ลง ๆ จะซื้อควรรอดูสักหน่อย บางทีเกือบหกพัน บางทีสี่พันกว่า
ถ้าสนใจอยากซื้อบ้าง ราคามันจะขึ้น ๆ ลง ๆ ลองรอดูก่อนก็ดี บางทีห้าพันกว่า บางทีเหลือสี่พันกว่าครับ *
เห็นลาซาด้าโฆษณาลดราคาอยู่ ลองเข้าไปดูได้เรื่องเลย ไปเจอลำโพง harman/kardon ONYX STUDIO 3 ลดราคาเหลือ 3,990 บาท ด้วยความคันเลยสอยมาเล่นชุดนึงครับ (ใช้โปรบัตรเครดิต ลดอีกสามร้อยกว่าบาท) สั่งเมื่อวานบ่าย ๆ ตอนเที่ยงวันนี้ก็เอามาส่งแล้ว
ตัวผมเองชอบฟังเพลงที่เสียงกลางชัดเจน หวาน ๆ เบสไม่ต้องมากมายนัก แหลมไม่ต้องใสมากเกินไป ลำโพงตัวนี้เมื่อลองฟังครั้งแรก เบสมาเยอะมาก จนรู้สึกท่วม บวม เสียงกลางแม้จะชัดเจนแต่ก็ยังรู้สึกว่าอั้น ๆ เสียงแหลมให้รายละเอียดดี แต่ไม่ได้ใสมากมาย โดยรวมฟังแล้วอึดอัดพอสมควร แนวเพลงที่เหมาะคือ คลาสิค อะคูสติค กับดูหนัง (แต่เกะกะ ตัวขนาดประมาณลูกบาสเกตบอล ที่วางที่เหมาะคือวางกับพื้นหน้าทีวี)
การใช้งานที่แนะนำคือ ถ้าจะเปิดดัง ๆ ควรวางให้ไกลตัวครับ ถ้าฟังในห้องเล็ก ๆ อย่าเปิดดังมาก
ถ้าถามคุ้มไหม ผมว่าเสียงโดยรวม หน้าตา ถ้ารวมยี่ห้อที่ดูดีด้วย เทียบกับราคาก็คุ้มครับ
(หลังจากซื้อได้ 1 วัน ราคาลดไปอีก 100 บาท เหลือ 3,890 แต่พอผ่านไปอีกวันราคาไปอยู่ที่ 5799 แล้วครับ ราคามีขึ้นลงยังกับหุ้นเลย)
----------------------------------------
หลังจากใช้งานไป ~10 ชม.
เบสกระชับขึ้น หายบวมไปนิดหน่อย กลางชัดเจนขึ้นจิ๊ดนึง แหลมชัดเจนขึ้นหน่อยนึง ท่าทางลำโพงชุดนี้จะเบิร์นสนุก มีแววว่าเสียงจะดีครับ
-----------------------------------------
หลังจากใช้งานไป ~20 ชม.
กลางชัดเจนขึ้น เบสเริ่มหายบวม โดยรวมเบสยังเยอะอยู่แต่ฟังแล้วอึดอัดน้อยลง
-----------------------------------------
หลังจากใช้งานไป ~50 ชม.
กลางชัดเจนขึ้น แต่ยังออกไม่เต็มที่ เบสกระชับขึ้น แต่ยังอืด ๆ เสียงแหลมออกชัดเจนดี หลังจากลองเพลงหลาย ๆ แนว เจอว่าถ้าต้นฉบับเบสน้อย ๆ ฟังเพราะดี ถ้าเบสเยอะ ๆ มันจะออกมาเยอะไป
----------------------------------------
หลังจากใช้งานไป ~100 ชม.
เบสดีขึ้นครับ แต่เสียงจะอืด ๆ เหมือนติดบวมนิด ๆ กลางแหลมชัดเจน แต่ไม่ใสมาก
-----------------------------------------
ราคามีขึ้น ๆ ลง ๆ จะซื้อควรรอดูสักหน่อย บางทีเกือบหกพัน บางทีสี่พันกว่า
วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2560
Marina Nagasawa แต่งคอสเพลย์เป็น น้องหอยทาก (Mayoi Hachikuji) จาก Monogatari series.
เครดิต : http://www.crunchyroll.com/anime-news/2016/07/15/cosplay-du-jour-20-year-old-idol-marina-nagasawa-does-a-perfect-monogatari-mayoi-hachikuji
อายุ 21 แล้ว แต่หน้ายังเด็กอยู่เลย
อายุ 21 แล้ว แต่หน้ายังเด็กอยู่เลย
เอาไฟฉายมาแนะนำอีกแล้ว (20บาท ซูมได้)
ซื้อจากร้านทุกอย่าง 20 ราคา 20 บาท หน้าตาจะดูกาก ๆ วัสดุเป็นพลาสติก ใช้ถ่าน AAA 3 ก้อน
การซูมก็ใช้การชักตัวเลนส์ เข้า ออก แสงสว่างก็จะตั้งได้ว่าจะให้ได้ระยะไกลมุมแคบ หรือ เป็นแบบมุมกว้าง
โดยรวมก็หน้าตาไม่ได้เรื่อง แต่ปรับลักษณะของแสงได้ ที่สำคัญคือราคาถูก ซื้อทิ้ง ๆ ไว้ในบ้าน ในรถ เสียหรือหายไม่เสียดายเงิน
(ตอนแรกซื้อมาเพื่อจะเอาเลนส์กับซองถ่าน AAA ครับ แต่ลองแล้วก็ดีเหมือนกันเลยเอามาแนะนำ)
การซูมก็ใช้การชักตัวเลนส์ เข้า ออก แสงสว่างก็จะตั้งได้ว่าจะให้ได้ระยะไกลมุมแคบ หรือ เป็นแบบมุมกว้าง
โดยรวมก็หน้าตาไม่ได้เรื่อง แต่ปรับลักษณะของแสงได้ ที่สำคัญคือราคาถูก ซื้อทิ้ง ๆ ไว้ในบ้าน ในรถ เสียหรือหายไม่เสียดายเงิน
(ตอนแรกซื้อมาเพื่อจะเอาเลนส์กับซองถ่าน AAA ครับ แต่ลองแล้วก็ดีเหมือนกันเลยเอามาแนะนำ)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)