เน็ตฟรีข้างบ้าน (ไม่ได้แฮ็กนะครับ)

เมื่อ 2 - 3 ปีก่อน พี่ผมเขาจะต่อเน็ต ADSL ก็เลยไปถามข้างบ้านที่ทำเป็นออฟฟิศเล็ก ๆ อยู่ เพื่อจะถามว่าใช้เจ้าไหนอยู่ ดีไหม เผื่อจะต่อเจ้าอื่นแล้วแบ่งกันใช้เวลาเจ้าไหนมีปัญหา ทางเถ้าแก่บอกว่า จะต่อทำไม ก็ใช้ของที่นี่ไปเลยสิ แล้วก็ให้ SSID กับพาสเวิร์ดมา

เนื่องจากที่ออฟฟิศนี้ ใช้งาน 8.30 - 17.00 น. ส่วนที่บ้านใช้งานช่วงกลางคืนเท่านั้น (ทุ่มนึงถึงเที่ยงคืน)  ทางนั้นเลยให้ใช้ร่วม จะจ่ายตังค์ช่วยเขาก็ไม่เอาอีก แต่เวลามีปัญหาให้ช่วยมาดูแทน พี่ผมเลยต้องเป็นแอดมินจำเป็นไป

นอกจากนี้ในละแวกบ้านก็มีร้านหมอฟัน เมื่อปีที่แล้วก็เอา SSID กับพาสเวิร์ดมาให้อีก คือเขามาคุยด้วยบ่อย ๆ อยู่แล้ว เขาบอกเน็ตที่บ้านมันดูซีรี่ส์แล้วเดิน ๆ หยุด ๆ เมียแกหงุดหงิดเลยเปลี่ยนเน็ตไปเป็น 50 เม็ก. แล้วแกก็ติดใจ เลยเปลี่ยนเน็ตที่ร้านด้วย ที่นี้เลยเอามาฝากที่บ้านใช้ด้วย เขาบอกติดแพงต้องใช้ให้คุ้ม ๆ เวลาทำงานร้านหมอก็ 9.00 - 18.30 น. ที่เหลือก็แค่ต่อกล้องวงจรปิดเอง เสียดาย

แต่ร้านหมอฟันมันไกล ต้องไปต่อแถว ๆ หน้าบ้านแถมเดินมั่งไม่เดินมั่ง พอหมอรู้เขาบอกเดี๋ยวจะย้ายราวเตอร์มาหน้าร้าน ห้ามกันแทบตาย ตลกดี

ของฝากจากประเทศญี่ปุ่น

ช่วงปลายเดือนเมษายน พี่สาวผมไปเที่ยวญี่ปุ่น 10 วัน กลับมาก็มีของฝากครับ

อันแรกคือ ถุงซักผ้า ฮ่า ๆ ซื้อมาทำไม เมืองไทยเยอะแยะ แกเห็นว่าของผมซิปมันจะพังแล้วเลยซื้อมาให้

อันที่สอง วิตามินซี ซื้อมาทำไมวะ แกบอกว่าซื้อของที่ร้านแล้วยังไม่ครบ 5000 เยน เลยซื้อเติมให้ครบ ๆ จะได้เอาไปคืนภาษีได้ เหอ ๆ

ไอ้ที่สั่งไปคือผงโรยข้าว แกลืมครับ

การออมเงินแบบขำ ๆ ของผม

ปกติแล้วผมไม่ชอบพกเงินเยอะ ๆ ชอบที่จะให้กระเป๋าเงินแบน ๆ เมื่อรู้สึกว่ามันหนาจะเอาเงินออก เหลือแบงค์พันสองใบ แบงค์ห้าร้อยสักใบ แบงค์ร้อยสองสามใบ แบงค์ห้าสิบใบนึง แบงค์ยี่สิบสามสี่ใบ เงินที่นำออกจะโยนใส่ลิ้นชักไว้เผื่อเอาไว้เติม นาน ๆ เข้าเมื่อเริ่มเยอะก็จะย้ายไปใส่ถุงไปไว้ที่เก็บอื่น นาน ๆ เข้ามันก็เริ่มเยอะ ตรงนี้คือการออมเงินแบบขำ ๆ ของผมครับ

เที่ยวนี้น่าจะสักสองปีกว่า ๆ เอามานับได้เงิน 20,980.-